วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

My Mint.. My favourite ^ ^


อันนี้เป็นบทความที่สองของชีวิตเรานะจ้ะ ปั่นในระยะฉุกเฉินกันเลยทีเดียว

My favouriteของเราคือเจ้มิ้น (พี่มิ้น)AF3

เจ้มิ้นเป็นคนน่ารักมากเลย สำหรับเราเจ้มิ้นเป็นแรงบันดาลใจและเป็นทุกๆอย่าง

เรารู้จักเจ้มิ้นจากเวทีล่าฝันAcademy Fantasia Season3 เราประทับใจในความพยายาม

และตั้งใจของเจ้มิ้นตั้งแต่วีคแรก (บทเพลงพระราชนิพนธ์) เสียงร้องของเจ้มิ้นหวานและใสมากถึงแม้ว่าพอผ่านไปหลายๆวีคเข้า เจ้มิ้นจะเสียงแหบจนร้องไห้ที่ร้องเสียงสูงไม่ถึง ด้วยความพยายามและตั้งใจก็ทำให้เจ้มิ้นมาถึงรอบสุดท้ายจนได้ เจ้มิ้นออกจากบ้านเอเอฟมาแล้วก็มีผลงานต่างๆตามมามากมาย งานบางอย่างต้องยอมรับจริงๆๆ...เจ้มิ้นสุดยอด !!


ตอนนี้เจ้มิ้นอยู่ปี3 เศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ มีวันนึงตอนที่เราจะไปสอบกม.ที่ตึกมหิตฯ เราเดินผ่านตึกของเศรษฐศาสตร์ ความฝันของเราก็เป็นจริง เราได้เจอเจ้มิ้นตัวจริงเสียงจริง โอยยยย ดีใจจนทำอะไรไม่ถูกเลย

กม.ที่ท่องมาหายหมดดด เราก็มองๆแล้วเอะ นี่มิ้นหรือเปล่า แต่ถ้าเราไม่รีบเรียกชื่อเขาออกไปต้องเสียใจแน่นอน "อ้าววมิ้น" เจ้มิ้นก็งง ใครอ่ะ (เราเคยเจอเจ้มิ้นตอนที่เอเอฟมาทัวร์คอนเสิร์ตที่สาธิตจุฬาฯแล้ว เราประทับใจเขามากเลย เจ้มิ้นเป็นมิตรมาก เพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่โรงเรียนกลายเป็นสมาชิกบ้านโพรงกระต่ายชมรมคนรักมิ้นกันถ้วนหน้าเลย แต่ตอนนั้นขอถ่ายรูปกับเจ้มิ้นไม่ทัน ในบ้านก็น่ารักแล้ว ได้เจอตัวจริงจากวันนั้น เราก็ติดตามผลงานเจ้มิ้นมาตลอดเลย ถึงแม้ว่าเราจะไม่ค่อยได้ตามมากเท่าสาชิกบ้านโพรงกระต่ายเพราะว่าตอนนั้นอยู่ช่วงม.6 แต่เราก็ได้ข่าวเจ้มิ้นจากแม่อยู่บ่อยๆ) ตอนแรกเจ้มิ้นก็งงนะ แต่เราก็ทำอะไรไม่ถูก ก็โบกมือด้วยความถี่สูงมาก สวัสดีค่า เจ้มิ้นก็โบกมือตอบกลับมาแล้วก็บอกว่า "สวัสดีค่า" น่ารักสุดยอด เล่าคงบรรยายไม่ถูก มาเป็นเราแล้วจะรู้โอ้โห...ดีใจจังเลยยย ทุกอย่างก็จบลงแค่นั้นเพราะวันนั้นเราต้องรีบไปสอบกม.และเจ้มิ้นเองก็คงต้องรีบไปเรียนเหมือนกัน เรากลับบ้านมาวันนั้นทำอะไรไม่ได้เลยดีใจมาก เอาเพลงโจโจ้ซังละครเวทีที่เจ้มิ้นเล่นมาร้องงงง ดีใจลัลล้า เราก็เข้าไปสมัครสมาชิกบ้านโพรงกระต่ายแต่ว่ามีเออเร่ออะไรไม่รู้เกิดขึ้นแล้วมันก็จะสอบแล้ว เราก็เลยทำอะไรไม่ได้ หวังว่าเจ้มิ้นคงจำเราได้ เพราะเจ้มิ้นจำแฟนคลับโพรงกระต่ายได้เสมอ หลังปีใหม่เราตั้งใจจะเอาของขวัญกับกล้องถ่ายรูปติดตัวไปเวลาไปเรียนที่นั่นอีกเผื่อเจอเจ้มิ้น แต่เพราะเราต้องเข้าปฏิบัติการล่าฝันที่เพิ่งตัดสินใจตอนปีใหม่นี้เอง ทำให้เราไปเรียนไม่ได้ และก็คงไม่มีโอกาสได้เจอเจ้มิ้นแล้ว ตอนนี้เราเองก็เครียดมากเพราะถูกบีบทางเวลาอย่างสุดๆ แม่บอกเราว่าเจ้มิ้นเป็นนักสู้มากเลย (เขาเป็นจริงๆ)ตอนจะต้องเล่นโจโจ้ซังเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก เพราะละครเวทีไม่ใช่เล่นผิดคัทแล้วเล่นใหม่ได้ เจ้มิ้นตั้งใจมาก ต้องสอบด้วย เจ้มิ้นก็ทำได้ ตอนเราไปดูโจโจ้ซัง เจ้มิ้นทำได้ดีมาก เล่นได้เหมือน เล่นจนเราเชื่อได้ เล่นจนเราร้องไห้ เสียงร้องเจ้มิ้นใสและก้องกังวาน ดีขึ้นกว่าตอนเงินเงินเงิน (ตอนนั้นรับบทเป็นคุณตุ้ม เสียงใสและเพราะมากแต่แหบนิดหน่อยเพราะเจ้มิ้นเพิ่งออกจากบ้านมาทำงานหนักมากเลย) เจ้มิ้นบอกไว้เสมอว่า ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ ... ใช่เลยยย

เราคงไม่สามารถบรรยายความรู้สึกรักและประทับใจในตัวเจ้มิ้นได้ทั้งหมด แต่สำหรับเราเจ้มิ้นเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง เราดีใจที่เราได้เจอเจ้มิ้น ถ้าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเหมือนความฝัน นี่เป็นฝันดีที่สุดของเราเรื่องหนึ่ง คือการได้รักเจ้มิ้น ขอบคุณที่โลกนี้มีเจ้มิ้น

เพื่อนๆติดตามผลงานของเจ้มิ้นได้ที่บ้านโพรงกระต่าย http://www.mintita.com/ แล้วคุณจะหลงรักเธอ

ขอบคุณมากท่อ่านนะจ้ะ ขอบคุณมากที่ช่วยเข้ามา ขอบคุณเพื่อนๆด้วยนะสำหรับกำลังใจ เราก็จะทำให้ดีที่สุด เราประทับใจมากและจะไม่มีวันลืมเรื่องเหล่านี้เลย ขอบคุณที่เราได้เจอทุกคนนะ


วันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2552

ครั้งแรกก...ของหนู

หวัดดีจ้าเพื่อนๆ
เราดีใจมากเลยเปิดมาเจอคอนแทคของเพื่อนๆด้วย บล็อกเรายังคงเป็นบล็อกที่ว่างเปล่ามาตั้งแต่เราเข้าไปโพสไว้ในเว็บบอร์ด แต่เพื่อนๆก็ยังแอดกันเข้ามา
(ซาบซึ้งงง..จริงๆ) นี่ก็เป็นเว็บบล็อกเว็บแรกของเรา และก็เป็นบทความอันแรกของเราด้วย ยังไงก็ฝากตัวฝากใจด้วยนะคะ อิอิ
ว่าด้วยเรื่องแรกๆกันดีกว่า ปีที่ผ่านก็เป็นปีแรกของชีวิตนิสิตจุฬาฯของเรา อืม มาดูกันเลย เกิดอะไรขึ้นบ้าง
เป็นปีแรกของชีวิตนิสิตจุฬา
เป็นปีแรกที่เราได้เจอเพื่อนใหม่ๆนอกโรงเรียน
เป็นปีแรกที่เราพูดน้อยที่สุด (เอ๋ ปกติเพชรพูดมากหรอเนี่ย..555นั่นแหละๆ)
เป็นปีแรกที่ราผ่านประสบการณ์ความเครียดมากที่สุด ตอนจะสบเข้ามหาวิทยาลัย (แล้วปีนี้ล่ะ...)
เป็นปีแรกที่น้ำหนักเพิ่มมากสุด3กิโลใน1เดือนตอนจะเอนท์ แต่ลดต่ำได้มากที่สุด4กิโลตอนเต้นลีลาศ
เป็นปีแรกที่เราเต้นเป็นมากขึ้น (แต่ก่อนเต้นได้แต่เพลงเด็กอนุบาล ต้องขอบคุณขาแดนซ์เทลมีด้วยนะ)
เป็นปีแรกที่เราแต่งหน้า (ครั้งสุดท้ายตอนระบำงานปีใหม่ป.6ที่โรงเรียน)
เป็นปีแรกที่เราจากเพื่อนสนิท ทำให้เราเข้าใจความหมายของคำว่าเพื่อนมากขึ้น
เป็นปีแรกที่ใช้เงินเก่งที่สุด
เป็นปีแรกที่มีเงินเก็บเทียบสัมพัทธ์กับเงินค่าขนมที่ได้รับน้อยที่สุด (ฟุ่ยเฟือยนั่นเอง)
เป็นปีแรกที่ใส่ขาสั้นเกินหัวเข่าตอนไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อน (ปกติเราจะเป็นป้าหน่อยๆน่ะ)
เป็นปีแรกที่เราสวยยยย น่ารัก เริ่ดค่ะ (อันนี้ล้อเล่นนะ อย่าเพิ่งปิดบล็อกเราเลย)
เป็นปีแรกที่นอนเยอะที่สุด เรียกว่าตื่นแค่4ชม.ต่อวัน
เป็นปีแรกที่เรากินมิสเตอร์เชคทั้งที่ก็เดินสามมาตั้งแต่ม.ต้น (ก็อร่อยดีนะแต่แพงไปหน่อยง่ะ)
เป็นปีแรกที่มีบัตรเดบิต รู้สึกว่ามันทำให้เราใช้เงินเก่งขึ้นง่ะ ไม่ดีๆ
เป็นปีแรกทีเราไปโรงเรียนน้อยที่สุด (ขนาดอยู่ใกล้ไม่เคยกลับ แย่อ่ะเรา)
เป็นปีแรกที่เพื่อนๆเราเซอร์ไพรส์วันเกิดที่เรารู้สึกประทับใจมากเลย (ขอบคุณ มิ้น เป๊ก ปอ และเพื่อนๆที่เรียนที่อักษรด้วยนะ)
เป็นปีแรกที่เราค้นพบความฝันของตัวเอง
เป็นปีแรกที่เราทำอะไรจริงจัง
เป๋นปีแรกที่มีรักแรกพบแต่ไม่ใช่คนแรก (อันนี้ยกเว้น...อย่าถามเลยว่าใครเพราะเราก็ไม่รู้จักเขาเหมือนกัน ...อิอิ)
เป็นปีแรกที่ซื้อกล้องด้วยตัวเอง
เป็นปีแรกที่ซื้อเครื่องสำอางเอง
เป็นปีแรกที่รู้สึกว่าชีวิตวัยเด็กสั้นจัง อยากเป็นเป็นเด็กตลอดไปจังเลย
เป็นปีแรกที่เราเข้ามาคณะนี้ และรู้สึกอบอุ่นกับเพื่อนใหม่ๆ
เป็นปีแรกที่คนพูดไม่ค่อยได้ยินอย่างเราอยากเบอกพื่อนๆจากใจว่า
เราดีใจที่เป็นเพื่อนกับเพื่อนๆทุกคน ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ทำให้เราประทับใจและมีความสุข ตั้งแต่ครั้งแรกที่เราพบกันจนมาถึงทุกวันนี้
ถ้ามีอะไรต้องเปลี่ยนแปลงไป เพราะอะไรก็ตามแต่ อยากบอกให้รู้ว่าเราคนนี้จะรักเพื่อนๆตลอดไป จะไม่มีวันลืมเรื่องดีๆเหล่านี้เลย
ขอบคุณที่อ่านนะจ้ะ
โปรดติดตามตอนต่อไป 555